Amnesty International

ปากีสถาน: ผู้รอดชีวิตจากน้ำท่วมในจังหวัดสินธ์เผชิญวิกฤตสุขภาพและอาหารท่ามกลางการเพิกเฉยของรัฐบาล
ผู้รอดชีวิตจากน้ำท่วมในจังหวัดสินธ์ ประเทศปากีสถาน กำลังเผชิญวิกฤตสุขภาพที่รุนแรงและการขาดแคลนอาหาร หลังจากน้ำท่วมใหญ่ในเดือนสิงหาคม 2567 ส่งผลให้ประชาชนกว่า 140,000 คนต้องพลัดถิ่น สภาพอากาศที่แปรปรวนและฝนตกหนักต่อเนื่องยิ่งซ้ำเติมสถานการณ์ให้ย่ำแย่ หลายครอบครัวยังคงต้องอาศัยในเต็นท์ท่ามกลางน้ำท่วมขัง นำมาซึ่งการระบาดของโรคในชุมชน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ทั้งผู้สูงอายุ เด็ก และสตรีมีครรภ์ที่เสี่ยงต่อการเจ็บป่วยรุนแรงและเสียชีวิต
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เรียกร้องให้รัฐบาลปากีสถานและประชาคมโลกเร่งให้ความช่วยเหลือและฟื้นฟูชีวิตของผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน พร้อมผลักดันให้รัฐบาลปากีสถานจัดหาที่พักพิง อาหาร และการรักษาพยาบาลให้เพียงพอ เพื่อคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานในการดำรงชีวิตของผู้รอดชีวิต โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลที่ยังเข้าถึงความช่วยเหลือได้ยาก อีกทั้งรัฐบาลควรเร่งวางแผนรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเพื่อป้องกันวิกฤตในอนาคต
อ่านต่อ: https://bit.ly/3UDBXcf
—–

ญี่ปุ่น: ความก้าวหน้าสู่ความเสมอภาคในการสมรสของคู่รักเพศเดียวกันผ่านคำตัดสินของศาลสูงโตเกียว
ศาลสูงโตเกียวมีคำพิพากษาสำคัญว่า การห้ามการสมรสระหว่างคู่รักเพศเดียวกันขัดต่อรัฐธรรมนูญ นับเป็นก้าวสำคัญสู่ความเสมอภาคในการสมรสและสิทธิมนุษยชน คำตัดสินนี้ได้รับการสนับสนุนจากภาคประชาสังคมอย่างกว้างขวาง แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ชี้ว่าการที่รัฐบาลญี่ปุ่นยังไม่รับรองสิทธินี้เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนของคู่รักเพศเดียวกัน ซึ่งยังต้องเผชิญข้อจำกัดทางกฎหมายหลายด้าน ทั้งสิทธิการรับมรดก การขอวีซ่าคู่สมรส และสิทธิในการดูแลบุตร
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เรียกร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่นออกกฎหมายที่ครอบคลุมและเท่าเทียม เพื่อรับรองสิทธิการสมรสของคู่รักเพศเดียวกันอย่างสมบูรณ์ภายใต้กฎหมายแห่งชาติ การออกกฎหมายนี้จะช่วยให้คู่รักเพศเดียวกันได้รับความคุ้มครองทางกฎหมายเทียบเท่าคู่รักต่างเพศ และยังเป็นการยืนยันถึงการเคารพสิทธิของบุคคลในการใช้ชีวิตตามความปรารถนาอย่างมีศักดิ์ศรี พร้อมทั้งสร้างบรรทัดฐานใหม่ให้สังคมญี่ปุ่น
อ่านต่อ: https://bit.ly/40xHa9A
—–

ซูดาน: ความต้องการเร่งด่วนในการปกป้องพลเรือนท่ามกลางความรุนแรงที่เพิ่มขึ้น
จากเหตุการณ์โจมตีพลเรือนอย่างรุนแรงในหลายเมืองของรัฐเกซีรา ซูดาน แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ทุกฝ่ายในความขัดแย้งยุติการโจมตีที่คร่าชีวิตพลเรือน ความรุนแรงที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง พร้อมเปิดเส้นทางให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าถึงพื้นที่ได้อย่างเต็มที่ การโจมตีเหล่านี้สร้างความสูญเสียทั้งชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก อีกทั้งบีบให้ประชาชนนับพันต้องอพยพหนีภัย โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลที่การเข้าถึงความช่วยเหลือเป็นไปอย่างยากลำบาก
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เน้นย้ำว่าทุกประเทศที่สนับสนุนอาวุธและกระสุนให้กับทั้งสองฝ่ายควรยุติการสนับสนุนโดยทันที และเคารพข้อตกลงห้ามซื้อขายอาวุธของสหประชาชาติในเขตดาร์ฟูร์ การยุติการสนับสนุนการใช้ความรุนแรงจะเป็นก้าวสำคัญในการปกป้องชีวิตประชาชนผู้บริสุทธิ์ในซูดาน และลดการสูญเสียจากความขัดแย้งที่รุนแรงนี้ รวมถึงป้องกันการขยายตัวของความรุนแรงในภูมิภาค
อ่านต่อ: https://bit.ly/3NOYIGy
—–
บราซิล: คดีสังหารมาริแอลล์และแอนเดอร์สันสะท้อนภัยคุกคามต่อนักปกป้องสิทธิมนุษยชน
การพิจารณาคดีสังหารมาริแอลล์ ฟรังโก สมาชิกสภาเมืองริโอเดจาเนโร และแอนเดอร์สัน โกเมส คนขับรถของเธอ ซึ่งถูกลอบสังหารขณะเดินทางกลับจากการประชุมด้านสิทธิมนุษยชน นับเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการต่อสู้เพื่อความยุติธรรมในบราซิล แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เรียกร้องให้รัฐบาลบราซิลสืบสวนคดีอย่างถึงแก่นและนำผู้อยู่เบื้องหลังเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม คดีนี้สะท้อนถึงภัยคุกคามที่นักปกป้องสิทธิมนุษยชนต้องเผชิญในบราซิล ซึ่งถือเป็นประเทศที่อันตรายที่สุดแห่งหนึ่งสำหรับนักปกป้องสิทธิมนุษยชน
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ย้ำถึงความสำคัญในการคุ้มครองนักปกป้องสิทธิมนุษยชน และเน้นว่าการพิจารณาคดีที่โปร่งใสและเป็นธรรมจะเป็นสัญญาณสำคัญว่าสังคมจะไม่ยอมรับการละเมิดสิทธิมนุษยชนเช่นนี้ การพิจารณาคดีอย่างยุติธรรมยังสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักปกป้องสิทธิมนุษยชนที่ยังคงทำงานปกป้องสิทธิของประชาชนในบราซิล และเป็นการส่งสัญญาณว่าการข่มขู่คุกคามนักปกป้องสิทธิมนุษยชนจะไม่ถูกปล่อยให้ลอยนวลพ้นผิด
อ่านต่อ: https://bit.ly/3CcL6Cq
—–
อิรัก: ผู้ถูกควบคุมตัวในศูนย์อัล-เจดะฮ์ถูกทรมานและการบังคับให้สูญหาย
ชาวอิรักที่ถูกควบคุมตัวในศูนย์อัล-เจดะฮ์ต้องเผชิญการทรมานและการบังคับให้สูญหาย แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดเผยว่าผู้ถูกควบคุมตัวหลายคนถูกทุบตี ช็อตไฟฟ้า และบังคับให้อยู่ในท่าทรมานที่โหดร้าย ในสภาพที่ขาดการดูแลทางการแพทย์และสุขอนามัยขั้นพื้นฐาน การกระทำเหล่านี้ถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง องค์กรเรียกร้องให้รัฐบาลอิรักยุติการกระทำดังกล่าวและประกันสิทธิในการได้รับการพิจารณาคดีที่เป็นธรรม
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ยังเรียกร้องให้สหประชาชาติเพิ่มการตรวจสอบสถานการณ์ในศูนย์อัล-เจดะฮ์ เพื่อปกป้องสิทธิของผู้ถูกควบคุมตัวจากการละเมิด พร้อมผลักดันให้อิรักปฏิบัติตามมาตรฐานการคุมขังที่เคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ การยุติการทรมานและการบังคับให้สูญหายจะช่วยสร้างสังคมที่เคารพสิทธิของทุกคนในประเทศ และเป็นก้าวสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม
อ่านต่อ: https://bit.ly/3AucKu1
เพราะสิทธิมนุษยชนเป็นเรื่องของทุกคน
#AmnestyThailand #WeeklyHeadlines #สิทธิมนุษยชน