จากกรณีการระเบิดร้ายแรงในกรุงเบรุตเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2563 ซึ่งเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากและได้รับบาดเจ็บอีกหลายพันคน จูลี เวอร์ฮาร์ รักษาการเลขาธิการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า
“สภาพที่โหดร้ายภายหลังการระเบิดเมื่อวานนี้ นับเป็นหายนะเพิ่มเติมต่อประเทศที่ต้องเผชิญกับวิกฤติร้ายแรงนานัปการ เราขอส่งกำลังใจให้กับผู้รอดชีวิตและครอบครัวในช่วงเวลาที่เลวร้ายเช่นนี้
“ไม่ว่าการระเบิดครั้งนี้จะเกิดขึ้นด้วยสาเหตุใด โดยอาจเป็นผลมาจากสารแอมโมเนียมไนเตรทจำนวนมากที่ถูกเก็บไว้อย่างไม่ปลอดภัย แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เรียกร้องให้มีการจัดตั้งกลไกระหว่างประเทศโดยทันที เพื่อสอบสวนสาเหตุของเหตุการณ์ครั้งนี้
“แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลยังเรียกร้องประชาคมโลก ให้รีบส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปยังเลบานอนอย่างเร่งด่วน ในช่วงที่ประเทศนี้ต้องเผชิญทั้งภาวะวิกฤติร้ายแรงด้านเศรษฐกิจ รวมทั้งการระบาดของโรคโควิด-19”
ข้อมูลพื้นฐาน
เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2563 ได้เกิดเหตุระเบิดที่ท่าเรือกรุงเบรุต เลบานอน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 100 คน และได้รับบาดเจ็บกว่า 4,000 คน
นายมิเชล อาอูน ประธานาธิบดีเลบานอนกล่าวว่า การระเบิดเมื่อวานนี้เกิดขึ้นจากสารแอมโมเนียมไนเตรทปริมาณ 2,750 ตัน ซึ่งถูกเก็บไว้ในโกดังอย่างไม่ปลอดภัย โดยมีการประกาศไว้อาลัยอย่างเป็นทางการสามวันเริ่มจากวันนี้ ในขณะที่หน่วยกู้ภัยยังคงค้นหาผู้รอดชีวิตท่ามกลางซากปรักหักพัง
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลเชื่อว่า จำเป็นต้องมีการสอบสวนระหว่างประเทศที่ปลอดจากการแทรกแซงทางการเมืองในประเทศ เพื่อประกันให้เกิดความจริง ความยุติธรรม และการเยียวยาต่อผู้รอดชีวิต