ในโลกของคนๆ หนึ่ง ที่ชีวิตอาจไม่ได้ดีพร้อมและเต็มไปด้วยอุปสรรค คุณคิดว่าอะไรจะทำให้โลกของเขาหรือเธอคนนั้นได้สัมผัสกับกลิ่นอายของความหวัง ที่ชวนให้มีพลังก้าวเดินต่อไปอย่างไม่หวั่นเกรง ไม่ว่าคำตอบของคุณคืออะไร สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการมีชีวิตอยู่อย่างภาคภูมิอาจเป็น ‘การหยัดยืนเพื่อปกป้องตัวเอง’ แล้วมันจะดีมากแค่ไหนกัน หากการหยัดยืนนั้นได้ทำเพื่อคนอื่นด้วย
“เมื่อคุณมีความกล้าที่จะยืนหยัดเพื่อตัวเอง คุณก็สามารถยืนหยัดเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นได้”

เป็นมุมมองของ ‘แจ็กเกอลีน ยิว’ รองผู้อำนวยการฝ่ายการระดมทุน แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ที่หวังให้ผู้คนตระหนักถึงสิทธิขั้นพื้นฐานของตัวเอง และตระหนักรู้ว่าสิ่งใดถูกหรือผิด เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของตัวเองหรือใครอีกหลายๆ คน ไม่ว่าจะเป็นคนที่ไม่มีเสียง เช่น กลุ่มคนเปราะบาง เด็กเยาวชน ผู้สูงวัย หรือแม้แต่คนที่ไม่ได้คิดถึงสิทธิของตัวเองเท่าไหร่นัก เพื่อทำให้พวกเขาเหล่านี้มีชีวิตที่ดีขึ้น และแม้สิ่งที่พูดถึงจะเป็นเรื่องธรรมดาๆ ที่ไม่ว่าใครก็ทำได้ แต่จะมีสักกี่คนที่กล้าเปล่งเสียงว่า ‘สิ่งนี้มันผิด’ เมื่อต้องเจอกับเรื่องที่ไม่ถูกต้อง และความกล้าที่จะออกมาใช้สิทธิในเสรีภาพนี้เองที่เราเรียกว่า ‘ฮีโร่’ ในโลกความเป็นจริง
“ ฮีโร่เป็นเพียงแค่คนที่ลุกขึ้นมาพูดว่า ‘นี่มันผิด’ ใครก็ตามที่ยืนขึ้นและเปล่งเสียงออกมาก็สามารถเป็นฮีโร่ได้ เหตุนี้ เราจึงไม่ต้องการพลังพิเศษเหมือนในหนังซูเปอร์ฮีโร่ เพราะพลังพิเศษของคุณคือปากและเสียงของคุณ รวมถึงความรู้เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน ”
‘แจ็กเกอลีน’ ย้ำว่า คุณไม่จำเป็นต้องเป็นซูเปอร์แมนหรือไอรอนแมน คุณก็มีพลังพิเศษได้ เพราะพลังพิเศษของคุณคือ ‘ปาก’ และ ‘เสียง’ รวมถึงการมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน สำหรับเธอสิ่งเหล่านี้สร้างความหมายอันทรงคุณค่าต่อการเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างในสังคม และแม้สิ่งนั้นจะเป็นเพียงสิ่งเล็กๆ หรือเศษเสี้ยวของชีวิตใครสักคนหนึ่ง แต่การเปลี่ยนแปลงอันน้อยนิด เธอเชื่อว่าอาจนำไปสู่สิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้ หนึ่งในนั้นคือเรื่องสิทธิมนุษยชน ที่ตอนนี้แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย พยายามสื่อสาร ส่งเสียง สร้างแรงบันดาลใจให้เรื่องสิทธิมนุษยชน เป็นเรื่องของทุกคน
“เช่น สังคมการทำงานในสำนักงานหรือที่ไหนสักแห่ง แม้เมื่อเรารู้จักและตระหนักถึงสิทธิของตัวเองในฐานะลูกจ้าง แต่เพื่อนร่วมงานอาจไม่รู้เกี่ยวกับสิทธิของเขา พวกเขาอาจถูกเอารัดเอาเปรียบ ทำงานล่วงเวลาและไม่ได้รับค่าจ้าง หรือแม้กระทั่งเหตุการล่วงละเมิดทางเพศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคเอเชีย ที่หลายๆ คนก็เบื่อหน่ายกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนเหล่านี้”

การตระหนักรู้เรื่องสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานของคนเอเชีย ‘แจ็กเกอลีน’ อธิบายว่าในปัจจุบันคนส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยมีความรู้เรื่องนี้มากนัก โดยเฉพาะในที่ทำงานและในโรงเรียน เช่น การกลั่นแกล้งในโรงเรียน ที่บ่อยครั้งผู้ปกครองมักเลือกที่จะเงียบ ถ้าทำให้เด็กและเยาวชนตระหนักถึงสิทธิมนุษยชนของตัวเองได้มากขึ้น เธอเชื่อว่าจะทำให้คนรุ่นใหม่กล้าลุกขึ้นมาส่งเสียงถึงครูในรั้วโรงเรียน ไม่ได้เก็บเงียบเอาไว้เป็นรอยร้าวในชีวิต แต่ถ้าครูยังไม่รู้เรื่องสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานก็อาจจะนำไปสู่การจัดการที่ผิดๆ ฉะนั้นการทำให้เรื่องสิทธิมนุษยชนเป็นเรื่องของทุกคนด้วยความเข้าใจที่ถูกต้องจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเธอ
จากสิ่งที่ยกตัวอย่างขึ้นมา ‘แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย’ จึงอยากเชิญชวนให้ทุกคนในสังคมมาเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเรื่องสิทธิมนุษยชนให้เป็นเรื่องของทุกคนไปกับเราในฐานะ ‘ฮีโร่’ บนโลกแห่งความเป็นจริง เพราะการไม่เพิกเฉยต่อความอยุติธรรมจะนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกอย่างยั่งยืน ผ่านการโครงการ WE THE HERO ที่ทุกคนสามารถเข้าร่วมโครงการได้ด้วยการสนับสนุนสินค้าและผลิตภัณฑ์ดีไซน์น่ารัก ที่ถูกคิดขึ้นมาเป็น Gift Set ในราคา 1,500 บาท ประกอบด้วย แก้วเก็บความเย็น หมวก และถุงผ้า สกรีนข้อความสื่อสารถึงพลังสิทธิมนุษยชนและความยุติธรรม TAKING INJUSTICE PERSONALLY ที่มีความหมายว่า การไม่เพิกเฉยต่อความอยุติธรรม
นอกจากนี้ การสนับสนุนแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ผ่านโครงการ We The Hero Gift Set ไม่เพียงแค่ได้สิ่งของสุดน่ารักทีี่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งการเปลี่ยนแปลง ในแต่ละเดือนหรือช่วงเวลาสำคัญ แอมเนสตี้ จะสื่อสารเรื่องการเรียนรู้เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานต่างๆ เช่น สิทธิสตรี สิทธิ LGBTI หรือสิทธิเด็ก เพื่อให้คุณมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้มากขึ้นและมากพอไปทางอีเมลของทุกคน ที่เข้าร่วมในขบวนการขับเคลื่อนสิทธิมนุษยชนไปกับเรา ดังนั้นแอมเนสตี้จึงอยากเชิญชวนให้ทุกคนที่เป็นคนธรรมดา มาเริ่มต้นเส้นทางของการฮีโร่กับเราผ่านโครงการนี้ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างการเปลี่ยนแปลงเรื่อสิทธิมนุษยชนในประเทศไทยและระดับโลก
“โดยเงินของทุกคนจะถูกนำไปสนับสนุน ช่วยเหลือ ยืนเคียงข้าง ผู้ที่ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนทุกคนในปัจจุบันและอนาคต เราอยากให้ทุกคนมั่นใจว่าการบริจาคเพียงเล็กน้อยของคุณ สามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ได้ และคุณจะเห็นผลลัพธ์ในอนาคตอันใกล้นี้”
“แน่นอนว่าคุณสามารถหาซื้อสินค้าเหล่านี้ได้ในราคาที่ถูกกว่า แต่การเข้าร่วมโครงการนี้คุณไม่เพียงแต่ซื้อสินค้า คุณยังบริจาคเงิน 1,500 บาท เพื่อสนับสนุนและช่วยเหลืองานของแอมเนสตี้ ประเทศไทย คุณช่วยให้เราสามารถจัดห้องเรียนสิทธิมนุษยชนในโรงเรียนทั่วประเทศไทยได้มากขึ้น”
แอมเนสตี้วาดหวังว่าสโลแกน ‘ไม่เพิกเฉยต่อความอยุติธรรม’ จะกลายเป็นสิ่งที่เตือนใจให้ผู้คนหยุดเมินเฉยหรือปิดตาต่อความอยุติธรรม เพราะเราเชื่อว่าเมื่อใดก็ตามที่เกิดความอยุติธรรม คุณสามารถทำอะไรสักอย่างได้ เพราะคุณมีพลังที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งนั้น สำหรับเงินบริจาคที่แอมเนสตี้ระดมทุนจากโครงการต่างๆ จะถูกนำไปใช้ในงานของแอมเนสตี้ทั้งหมด ทั้งการทำงานวิจัยสถานการณ์สิทธิมนุษยชน งานขับเคลื่อนยื่นข้อเสนอเชิงนโยบายถึงทางการไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ตระหนักเรื่องสิทธิมนุษยชนมากขึ้น รวมถึงการทำงานรณรงค์ต่างๆ เพื่อยืนหยัดเคียงข้างผู้ที่ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน เช่น แคมเปญ Write for Rights , Protect the Protest , FreeRatsadon รวมถึงงานรณรงค์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชน ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ในงานของแอมเนสตี้ในประเทศไทย หากโครงการฮีโร่มีคนเข้าร่วมและสนใจจำนวนมาก ‘แจ็กเกอลีน’ เชื่อว่าเงินบริจาคที่ทุกคนมอบให้กับเรา จะช่วยทำให้สถานการณ์สิทธิมนุษยชนในภูมิภาคเอเชียมีแนวโน้มที่ดีขึ้นได้ ตามเป้าหมายและจุดยืนของทุกคน
‘แจ็กเกอลีน ยิว’ รองผู้อำนวยการฝ่ายการระดมทุน แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เล่าถึงการเป็นส่วนหนึ่งในขบวนการขับเคลื่อนสิทธิมนุษยชนเพิ่มเติมว่า นอกจากร่วมโครงการฮีโร่หรือสนับสนุนเงินบริจาค ยังมีช่องทางอื่นๆ ที่ทุกคนสามารถเป็นฮีโร่ได้อีกมากมายไปกับแอมเนสตี้ เช่น ร่วมลงชื่อในข้อเรียกร้อง Take Action ผ่านงานรณรงค์ต่างๆ การช่วยกดไลก์ กดแชร์โพสต์ในช่องทางออนไลน์ประเด็นสิทธิมนุษยชนของแอมเนสตี้ หรือมาร่วมเป็นสมาชิกและเป็นอาสาสมัครช่วยเหลืองานต่างๆ เพียงเท่านี้ก็เป็นคนธรรมดาที่สเป็นฮีโร่สร้างการเปลี่ยนแโปลงโลกเรื่องสิทธิมนุษยชนได้แล้ว

สุดท้ายไม่ว่าทุกคนจะมีมุมมองเกี่ยวกับ ‘ฮีโร่’ หรือ ‘แอมเนสตี้’ แบบไหน แต่ในมุมของ ‘แจ็กเกอลีน ยิว’ รองผู้อำนวยการฝ่ายการระดมทุน แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย มองว่า แอมเนสตี้ ประเทศไทย สำหรับเธอเป็นเหมือน Iron Man ซูเปอร์ฮีโร่จากมาร์เวลคอมิกส์ ที่ในช่วงแรกของเรื่อง ผู้คนไม่ชอบเขา เพราะมองว่า Iron Man มีอีโก้สูง แต่ลึกๆ แล้ว Iron Man มีจิตใจที่ดีมาก ทุกสิ่งที่เขาทำเป็นสิ่งที่ทำเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม และในตอนจบของ Avengers Endgame เขายังได้สละชีวิตเพื่อมนุษยชาติ
“ในความคิดของฉัน Iron Man จึงคล้ายกับแอมเนสตี้ ประเทศไทยมาก หลายคนอาจจะไม่ชอบเรา เพราะยังไม่เข้าใจและไม่เห็นด้วยกับงานรณรงค์ที่เราทำ แต่แอมเนสตี้ยังคงมุ่งมั่นทำงานเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงและเป็นแรงบันดาลใจให้กับทุกคน ที่ต้องการเห็นสังคมที่เท่าเทียมและยุติธรรมสำหรับทุกคน เราจะยืนหยัดทำงานเพื่อปกป้องสิทธิมนุษยชนของคนทั้งในไทยและทั่วโลก โดยมุ่งหวังให้คนทุกเพศ ทุกวัย ทุกชาติพันธุ์ ได้รับความเสมอภาค มีสิทธิเสรีภาพ และดำรงชีวิตอยู่อย่างมีศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์โดยเท่าเทียมกัน ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศและปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน เพื่อมุ่งหวังให้คนทุกคนอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างสันติสุข”
“การบริจาคของคุณในวันนี้จะเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญร่วมกับผู้คนนับล้านทั่วโลก สร้างรากฐานของการเคารพซึ่งกันและกัน ก้าวข้ามความเกลียดชัง ไม่เพิกเฉยต่อความอยุติธรรม และนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกอย่างยั่งยืน” แจ็กเกอลีน กล่าวทิ้งท้าย
การบริจาค ของคุณในวันนี้จะเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญร่วมกับผู้คนนับล้านทั่วโลก สร้างรากฐานของการเคารพซึ่งกันและกัน ก้าวข้ามความเกลียดชัง ไม่เพิกเฉยต่อความอยุติธรรม และนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกอย่างยั่งยืน : https://bit.ly/4bFEUiC